FREE SHIPPING ON ALL ORDERS OVER 400 THB

All about Lipid

5 ธันวาคม 2565
ระยะเวลาการอ่าน : 8 นาที

“ไขมันมีประโยชน์กับน้องหมาอย่างไร และควรทานมากน้อยเท่าไหร่ถึงเหมาะสม?”

ทั้งตัวเราเองและน้องหมาต้องการได้รับไขมัน เพราะไขมันเป็นหนึ่งในสารอาหารหลักที่ร่างกายของเราต้องการ และในวันนี้หมอนีทจะมาแบ่งปันเรื่องราวน่าสนใจ เกี่ยวกับไขมันให้เพื่อน ๆ กันค่ะ

เมื่อพูดถึงไขมัน หมอนีทขอแนะนำให้เรามาทำความรู้จักกับ ลิพิด (Lipid) และความเกี่ยวข้องกับไขมัน (Fat) 

ลิพิด (Lipid) เป็นสารขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งพลังงาน เช่นเดียวกับโปรตีน และคาร์โบไฮเดรต ลิพิดที่เป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้องจะเรียกว่าไขมัน หรือ Fat และ ลิพิดที่เป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้องจะเรียกว่าน้ำมัน หรือ Oil 

ลิพิดสามารถแยกได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

  1. Simple lipid คือ กรดไขมันรวมกับกลีเซอรอลหรือแอลกอฮอล์ ได้แก่ ไขมัน (Fat) น้ำมัน (Oil) และ แว็กซ์ (Wax)
  2. Compound lipid คือ กรดไขมันรวมกับแอลกอฮอล์และสารอื่น ได้แก่ ฟอสโพลิพิด (Phospholipids) ไกลโคลิพิด (Glycolipids) ลิโพโปรตีน (Lipoproteins) ซัลโฟลิพิด (Sulfolipids)
  3. Derived lipid คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการย่อยสลายของ simple lipid และ compound lipid ได้แก่ กรดไขมัน (Fatty acids), โมโนเอซิลกลีเซอรอล (Monoacylglucerol) และไดเอซิลกลีเซอรอล (Diacylglucerol) 
  4. Miscellaneous lipid คือ ลิพิดที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มไหนเลย เช่น สเตียรอยด์ (Steroid) 

เพิ่มเติม** ลิพิดที่สำคัญสำหรับน้องหมา คือ Cholesterol และ Triglycerides

Cholesterol เป็นส่วนประกอบของผนังเซลล์ ช่วยควบคุมการเผาผลาญ สมดุลเกลือและน้ำ
และยังเป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนกลุ่มสเตียรอยด์อีกด้วย 
Triglyceride สามารถแตกออกมาได้เป็นกรดไขมันและกลีเซอรอล เป็นไขมันที่ถูกสร้างและสะสมไว้เพื่อเป็นพลังงาน
ถ้าน้องหมาใช้ไม่หมดจะเก็บสะสมไปเรื่อย ๆ 

แล้วกรดไขมัน (Fatty acids) คืออะไร? 

กรดไขมัน หรือ fatty acids เป็นหน่วยย่อยของลิพิด ประกอบด้วยคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน 
สามารถแบ่งกรดไขมันออกโดยใช้เกณฑ์ได้ 3 แบบ คือ

  1. แบ่งตามจำนวนคาร์บอน ได้ 3 ชนิด คือ
    1.1 กรดไขมันสายสั้น (Short-chain fatty acid)
    1.2 กรดไขมันสายปานกลาง (Medium-chain fatty acid)
    1.3 กรดไขมันสายยาว (Long-chain fatty acid)
  1. แบ่งตามโครงสร้าง ได้ 2 ชนิด คือ
    2.1 กรดไขมันชนิดอิ่มตัว (Saturated fatty acid)
    2.2 กรดไขมันไม่ชนิดอิ่มตัว (Unsaturated fatty acid)
  1. แบ่งตามหลักโภชนาการ ได้ 2 ชนิด คือ
    3.1 กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย (Essential fatty acid)
    3.2 กรดไขมันที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย (Non-essential fatty acid)

รู้หรือไม่!? น้องหมาต้องการกรดไขมันจำเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน คือ Omega-3 และ Omega-6

หน้าที่ของลิพิด

  • ให้พลังงานแก่ร่างกาย แต่ถ้ามากเกินหรือร่างกายไม่ต้องการ จะไปเก็บตามร่างกาย
  • เป็นเหมือนฉนวน ช่วยให้อบอุ่น และป้องกันการกระทบกระเทือนของอวัยวะภายใน
  • เป็นองค์ประกอบของเซลล์ประสาท ทำให้กระแสประสาทเคลื่อนที่เร็วขึ้น รวมถึงยังช่วยให้มีการรับรู้ที่ดีขึ้น
  • เป็นองค์ประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ ช่วยในการส่งผ่านสารอาหารข้ามเยื่อหุ้มเซลล์
  • ช่วยขนส่งไขมันไปตามร่างกายผ่านเลือด
  • เป็นตัวทำละลายวิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค
  • ช่วยปกป้องผิวหนังไม่ให้ผิวหนังแห้งและไม่ให้สิ่งแปลกปลอมผ่านเข้าไป
  • มีส่วนช่วยให้จอประสาทตาทำงานได้ตามปกติ
  • เป็นองค์ประกอบของฮอร์โมนบางชนิด เช่น ฮอร์โมนเพศ

ลิพิดนำไปใช้ได้อย่างไร? 

ก่อนที่จะดูดซึมไปใช้ได้ ลิพิดต้องผ่านการย่อยก่อนจากเอนไซม์ไลเปสที่กระเพาะอาหารเป็นอันดับแรก ซึ่งลิพิดที่ย่อยแล้วส่วนมากจะอยู่ในรูปกรดไขมันอิสระ (Free fatty acid) จากนั้นจะถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็กโดยกรดไขมันอิสระนี้จะรวมตัวกับเกลือน้ำดี (Bile salt) เป็นสารละลายไมเซลล์ (Micelle) ซึ่งมีคุณสมบัติละลายในน้ำ ทำให้สามารถส่งต่อกรดไขมันอิสระไปตามร่างกายและดูดซึมทำไปใช้ได้นั่นเอง

เกร็ดความรู้** ในตอนที่ดูดซึมเสร็จไมเซลล์จะแตกตัว และเกลือน้ำดีจะกลับไปในลำไส้เล็ก
เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่กระบวนการรวมร่างช่วยดูดซึมอีกครั้ง เรียกว่า “Bile salt recycling”

แล้วไขมันปริมาณเท่าไหร่กันที่น้องหมาต้องการในแต่ละวัน 

ความต้องการไขมันและกรดไขมันแตกต่างกันไปขึ้นกับน้องหมาแต่ละตัว ซึ่งต้องดูว่าน้องหมาอยู่ในช่วงเจริญเติบโต ช่วงตั้งท้อง ช่วงให้นมลูก หรือมีภาวะโรคบางอย่างหรือไม่

ตามที่มาตรฐาน AAFCO ระบุไว้ว่า

  • ในช่วงปกติทั่วไป น้องหมาต้องการไขมันอย่างน้อย 5.5% as dry matter หรือโดยประมาณ 5% as fed และ 0.7% as fed ที่อยู่บนฉลากอาหารเม็ดและเปียกตามลำดับ
  • ในช่วงเจริญเติบโต น้องหมาต้องการไขมันอย่างน้อย 8.5% as dry matter หรือโดยประมาณ 8% as fed และ 1.2% as fed ที่อยู่บนฉลากอาหารเม็ดและเปียกตามลำดับ

โดยทั่วไปแล้ว น้องหมาถือว่าย่อยไขมันได้ดี เพราะค่าการย่อยได้ของไขมันอยู่ที่ 80-95% เลยทีเดียว การที่มีกรดไขมันอิ่มตัวเพิ่มมากขึ้น จะมีผลทำให้ค่าการย่อยได้ของไขมันลดลง นอกจากนี้ถ้าความเข้มข้นของไขมันในอาหารเพิ่มมากขึ้น จะเสริมความน่ากินของอาหารเพิ่มมากขึ้นตามไปอีกด้วย

น้องหมาทานไขมันมากเกินไปจะมีผลอะไรได้บ้าง?

การที่น้องหมาทานไขมันมากเกินไป จะทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคอ้วนและตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันตามมาได้ด้วย นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูงได้ ไขมันส่วนเกินไปเก็บสะสมตามร่างกาย แต่โดยปกติแล้วภาวะไขมันในเลือดสูงนี้มักเกิดจากความผิดปกติอื่น ๆ มากกว่า เช่น เบาหวาน ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ โรคตับ โรคไต เป็นต้น 

โดยปกติแล้วน้องหมาที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงอาจไม่มีอาการอะไรเลยก็ได้ หรือถ้าพบจะเป็นอาการทั่วไป เช่น ไม่อยากอาหาร อาเจียน ท้องเสีย ตับอ่อนอักเสบ ขนร่วง คัน เป็นต้น

ถ้าน้องหมาได้รับไขมันน้อยเกินไปล่ะ?

การที่น้องหมาได้รับไขมันน้อยเกินไป ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะได้รับกรดไขมันไม่เพียงพอ และมักจะพบเจอในน้องหมาที่ทานอาหารที่มีสารอาหารไม่ครบถ้วนสมบูรณ์

น้องหมาที่ได้รับกรดไขมันไม่เพียงพอ จะมีอาการ เช่น ขนแห้งไม่เป็นมัน หรือผิวหนังเป็นสะเก็ดนอกจากนี้ยังมีผลต่อการหายของแผล ทำให้หายช้าลงอีกด้วย และถ้าน้องหมาได้รับไขมันไม่เพียงพอไปนาน ๆ จะทำให้เกิดอาการอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น ขนร่วง ผิวหนังเงาดูมัน ๆ  โดยเฉพาะที่หูและระหว่างนิ้วเท้า นอกจากนี้ยังทำให้น้องหมาดูผอมแห้ง รวมถึงส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ มีความเสี่ยงให้ลูกที่เกิดมามีความผิดปกติได้

เป็นยังไงบ้างคะเพื่อน ๆ ได้รู้เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับไขมันไปพอสมควรเลยใช่ไหมล่ะคะ ทำให้เราเข้าใจความต้องการไขมันของน้องหมาและสามารถคุมให้น้องหมาได้รับไขมันอย่างเหมาะสมได้ หมอนีทเชื่อว่าน้องหมาของเพื่อน ๆ จะขนสวย แข็งแรง และอยู่กับเพื่อน ๆ ไปอีกนานเลยค่ะ ☺️

ที่มา 
Hand T., Small Animal Clinical Nutrition, pp. 96-104.
Linda P. Case., Canine and Feline Nutrition, pp. 17-20.
https://www.mypetnutritionist.com/post/fats-for-the-canine
https://open.oregonstate.education/animalnutrition/chapter/chapter-7/

เขียนโดย
คุณหมอนีท ผู้รักสัตว์แทบทุกชนิดบนโลก ชื่นชอบอาหาร และหลงใหลในธรรมชาติ

Shopping Cart